สาส์นจากท่านพ่อพระพิฆเนศวรทั้ง ๙ ฉบับ 
           
ข้อความที่ท่านทั้งหลายจะได้อ่านจากด้านล่างนี้  ผู้เขียนขออนุญาตอาจารย์แบงค์  นำมาเผยแพร่ต่อนะค่ะ 
ด้วยผู้เขียนเองก็สนใจและกราบไหว้บูชาท่านอยู่เป็นประจำ  ก็ขอตั้งจิตอธิษฐานให้บทความนี้ได้แพร่หลายไปสู่คนอีกมากมายที่สนใจอยากรู้เรื่องราวของท่านพ่อพิฆเนศวร
เมื่อได้อ่านแล้วก็ขอให้เกิดความเข้าใจและเคารพในองค์ท่านมากยิ่งขึ้น 
ตัวผู้เขียนเองก็ช่วยท่านทำภารกิจตามกำลังความสามารถของผู้เขียนเองเท่าที่มนุษย์ผู้หญิงตัวเล็ก
ๆ คนหนึ่งจะสามารถทำได้  ขอจิตที่เป็นกุศลนี้จงเกิดกับผู้ที่ได้อ่านสาส์นจากท่านพ่อพิฆเนศวรด้วยเทอญ....
อาจารย์แบงค์
ได้เป็นตัวแทนขององค์พ่อพระพิฆเนศวร
มาประกาศสาส์นจากสรวงสวรรค์ทั้ง ๙
ฉบับนี้ 
ขอให้ท่านช่วยกันอ่าน และส่งต่อไปด้วยเถิด
สาส์นจากท่านพ่อพิฆเนศวร
บทสรรเสริญ
๐ โอมศรีศรี คเณศายะ นมัสการ
องค์พระพิฆเณศ อวตาร ทุกปางภพ
ลูกขอน้อม จิตระลึก หัตถ์บรรจบ
ยอเคารพ นบกร ด้วยเศียรเกล้า
องค์พระพิฆเณศ อวตาร ทุกปางภพ
ลูกขอน้อม จิตระลึก หัตถ์บรรจบ
ยอเคารพ นบกร ด้วยเศียรเกล้า
๐ พ่อคเณศ สร้างสรรค์ สรรพสิ่ง
เมตตาจริง ทั้งเด็กน้อย พลอยผู้เฒ่า
ทุกชีวิน เรียกหาท่าน โปรดบรรเทา
นำทุกข์ไป เอาสุขมา ห่วงพระทัย
เมตตาจริง ทั้งเด็กน้อย พลอยผู้เฒ่า
ทุกชีวิน เรียกหาท่าน โปรดบรรเทา
นำทุกข์ไป เอาสุขมา ห่วงพระทัย
จุดประสงค์
๐ สาส์นนี้ข้าฯ จารไป ด้วยใจมุ่ง
ระลึกจิต ถึงกรุง ท่านอาศัย
ตอบแทนท่าน ที่ดูแล แต่เยาว์วัย
จำเขียนไป ด้วยจิต พิสดาร...
ระลึกจิต ถึงกรุง ท่านอาศัย
ตอบแทนท่าน ที่ดูแล แต่เยาว์วัย
จำเขียนไป ด้วยจิต พิสดาร...
๐ ขอนำเรื่อง ของท่านพ่อ มาเผยแพร่
ความจริงแท้ ทุกสิ่ง ไม่วิตถาร
ด้วยเคารพ ตัวท่าน เป็นอาจารย์
ทุกประการ หากพลาดพลั้ง ขออภัย
ความจริงแท้ ทุกสิ่ง ไม่วิตถาร
ด้วยเคารพ ตัวท่าน เป็นอาจารย์
ทุกประการ หากพลาดพลั้ง ขออภัย
๐ ครั้นนึกถึง ท่านพ่อ คเณศวร
นิมิตชวน ให้คิดถึง อำนาจใหญ่
ที่พ่อแผ่ ไพศาล มานานไกล
ลูกนี้ไซร้ ขอนำคำ มาร้อยเรียง
นิมิตชวน ให้คิดถึง อำนาจใหญ่
ที่พ่อแผ่ ไพศาล มานานไกล
ลูกนี้ไซร้ ขอนำคำ มาร้อยเรียง
๐ ถอดจิตทิพย์ กายทิพย์ เข้าเฝ้าหา
พ่อเมตตา เรียกหา กังวานเสียง
ด้วยความรัก หมอบกายไว้ ข้างตั่งเตียง
ท่านนั่งเคียง ประทับใกล้ ไม่ไกลเรา
พ่อเมตตา เรียกหา กังวานเสียง
ด้วยความรัก หมอบกายไว้ ข้างตั่งเตียง
ท่านนั่งเคียง ประทับใกล้ ไม่ไกลเรา
๐ เจ้าลูกพ่อ เข้ามา ใกล้ใกล้นี้
พ่อจะชี้ ให้ดูเห็น ไม่ขลาดเขลา
จงจารสาส์น ตามพ่อบอก อย่าดูเบา
อันตัวเรา จะจด ทุกวลี
พ่อจะชี้ ให้ดูเห็น ไม่ขลาดเขลา
จงจารสาส์น ตามพ่อบอก อย่าดูเบา
อันตัวเรา จะจด ทุกวลี
๐ ความจริงจาก พระโอษฐ์ องค์คเณศ
ท่านแจงเหตุ ชี้เรื่อง ตัวท่านนี้
เป็นอย่างไร โปรดตาม สดับซี
ตัวเราสิ นี่แหละ จะบอกไป
ท่านแจงเหตุ ชี้เรื่อง ตัวท่านนี้
เป็นอย่างไร โปรดตาม สดับซี
ตัวเราสิ นี่แหละ จะบอกไป
๐ อันเรื่องพ่อ ที่เห็น ในตำรา
ที่มีมา แต่โบราณ กาลสมัย
อาจมีผิด มีพลาด ขัดพระทัย
คนทำไป โดยไม่รู้ เท่าถึงการณ์
ที่มีมา แต่โบราณ กาลสมัย
อาจมีผิด มีพลาด ขัดพระทัย
คนทำไป โดยไม่รู้ เท่าถึงการณ์
๐ พ่อเล็งเห็น ปัญหา ตรงจุดนี้
ก็เลยชี้ สั่งให้เรา เฝ้าจารสาส์น
และสั่งให้ จดบันทึก ทุกเหตุการณ์
จึงรับงาน ขององค์พ่อ มาโดยดี
ก็เลยชี้ สั่งให้เรา เฝ้าจารสาส์น
และสั่งให้ จดบันทึก ทุกเหตุการณ์
จึงรับงาน ขององค์พ่อ มาโดยดี
๐ นี่ไม่ใช่ หนังสือ หรือเรื่องแต่ง
พ่อสาปแช่ง เอาไว้ หากย้อมสี
อันตัวเรา ก็ทำตาม ทุกถ้อยที
ตามวลี ของท่าน เราทำตาม
พ่อสาปแช่ง เอาไว้ หากย้อมสี
อันตัวเรา ก็ทำตาม ทุกถ้อยที
ตามวลี ของท่าน เราทำตาม
๐ หนังสือนี้ คือ ‘สาส์นองค์คเณศ’
ท่านมีเหตุ อยากเผยแผ่ ทุกเขตคาม
อยากให้เรา ระลึกถึง ในทุกยาม
ไม่ประณาม บารมี ที่ท่านมี
ท่านมีเหตุ อยากเผยแผ่ ทุกเขตคาม
อยากให้เรา ระลึกถึง ในทุกยาม
ไม่ประณาม บารมี ที่ท่านมี
๐ จึงขอเป็น ตัวแทน ขององค์พ่อ
มาบอกต่อ ถ้อยคำ วิเศษศรี
อ่านเอาไว้ เป็นความรู้ คู่บารมี
ขอพรศรี คเณศช่วย คุ้มครองเรา
มาบอกต่อ ถ้อยคำ วิเศษศรี
อ่านเอาไว้ เป็นความรู้ คู่บารมี
ขอพรศรี คเณศช่วย คุ้มครองเรา
๐ ต่อแต่นี้ อัญเชิญสาส์น ของท่านพ่อ
มาเผยต่อ สาธารณะ อย่าดูเขลา
ขอให้ท่าน ตั้งใจอ่าน ด้วยจิตเบา
แล้วจะเข้า ใจตามความ ที่ท่านมี...
มาเผยต่อ สาธารณะ อย่าดูเขลา
ขอให้ท่าน ตั้งใจอ่าน ด้วยจิตเบา
แล้วจะเข้า ใจตามความ ที่ท่านมี...
สาส์นฉบับที่ ๑
กลอน ๘
       ๐ อันตัวเรา คือคเณศา คณปติ             ขานกัน “ศิวบุตร” ก็งามศรี
อันมารดา เรานาม “ปารวตี”                       “อุมาเทวี” เขาก็เรียก นามขานกัน...
       ๐ พ่อของเรา ก็คือองค์ พระอิศวร         "ศิวะ"ล้วน คือนาม ท่านกล่าวขาน
พ่อมี ‘ตรีสูร’จริง
ดั่งตำนาน                        อีกบริวาร เป็นงู อสูรไพร...
       ๐ องค์พระแม่ เทวี นั่งเคียงข้าง           ประทับ ณ สถาน วิมานใหญ่
เรียกเขา “ไกรลาส” สุดแดนไตร                  เราเคารพ นบไหว้ เทพเทพี
      ๐ อันตัวเรา เขาเล่าว่า “เศียรเป็นช้าง”    เห็นจะจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง น่าบัดสี
น่าหัวร่อ หากเศียรช้าง ทุกราตรี                 อารมณ์ดี อยากอยู่ เป็นเศียรคน
      ๐ เราจำแลง ร่างได้ ดั่งใจนึก                เป็นช้างศึก ลึกเข้าไป ในไพรสณฑ์
กลับออกมา เป็น ‘กวาง’ ในบัดดล               เหาะเหินหาว กลางเวหา เป็น ‘อินทรีย์’
      ๐ ที่เขาว่า บริวาร เราเป็น ‘หนู’            ‘มุสิกะ’ดู ตัวน้อย ไม่พอขี่
จะทรงหนู ตัวเราใหญ่ ไม่เข้าที                   จะทรงที ทรงช้าง ‘เอราวัณ’…

       ๐ ท่านอาจ สงสัย ในประวัติ               ที่เขียนมัด ตัวเรา อย่างน่าขัน
ตำรามี ล้วนไว้ใน พิพิธภัณฑ์                     อย่าปนกัน กับความจริง ที่ฉันมี...
       ๐ พุงใหญ่ ท้องกว้าง ดั่งมหาจั-           -กรวาลนั้น ล้วนเป็นเรื่อง แต่งปรุงสี
อันตัวเรา อยากผอม หุ่นเข้าที                    วิเศษศรี ปั้นได้ ดั่งใจเรา
       ๐ พระพักตร์เป็น ‘เทวบุตร’ สุดจะหล่อ  คนมักล้อ ต่อเศียรช้าง ดูแก่เฒ่า 
มีงวงงา ช้อนไป คือตัวเรา                         ที่ท่านเอา มาเขียน เป็น ‘นิทาน’
      ๐ มีความจริง หลายเรื่อง อยากจะบอก   ไม่พอหรอก กาลนี้ มันแสนสั้น
ลูกช่วยเขียน บันทึกไว้ ในประพันธ์             ว่าพ่อนั้น จะรีบจร ไป‘ปราบมาร’
      ๐ ณ ยามนี้ แดนสวรรค์ เราไม่สุข          มีทั้งทุกข์ ทั้งสงคราม ให้หักหาญ
แดนมนุษย์ ก็ไม่ต่าง จากวิมาน                   เทพบันดาล เบื้องบน ก็พอกัน
      ๐ เห็นเหตุบ้าน การเมือง แดนมนุษย์     ดูคนทุกข์ ก็สุดแค้น ถึงแดนสวรรค์
โลกมนุษย์ ปั่นป่วน พอๆ กัน                     แดนของฉัน ก็มี หน้าที่ทำ...
       ๐ ทั้งสงคราม ฝ่ายอธรรม ทำลายล้าง   สร้างหนทาง แก่ตน ให้เราช้ำ
มันคือมาร เหยียบย่ำ จากแดนดำ               อำมหิต เหลือร้าย ต้องทำลาย
        ๐ เวลานี้ หยุดเล่าเรื่อง ตนเองก่อน      สวรรค์ร้อน เรียกหาเรา สุดใจหมาย
เราจะ จำแลงร่าง เปลี่ยนแปลงกาย              จากโฉมชาย สุดงาม เป็น ‘คเณชา’
        ๐ มีพระพักตร์ แปรเปลี่ยน เป็น ‘คชสาร’    ดั่งตำนาน ที่เขาเล่า กันอย่างว่า
แต่เราทรง ช้างศึก ไอยรา                               มุสิกะ หนูทรง มันเล็กไป
        ๐ พร้อมอาวุธ ธนูทอง ลูกศรเสก          สะพายหลัง ดุจพระเอก ในหนังใหญ่
ราวพระราม ปราบยักษ์ ให้สิ้นไป                 กระโดดใส่ หลังช้าง โจนทะยาน
        ๐ มุ่งหน้าไป ปราบศัตรู ปากแดนสรวง  มันจะทวง บัลลังก์สวรรค์ อย่างอาจหาญ
มันบังอาจ บุกมา เต็มวิมาน                         พลเกินล้าน นับได้ ไม่หมดเลย
        ๐ ฝ่ายมารมา กันครบ ทุกอาวุธ            มันจะฉุด แดนสรวง เป็นเชลย
พ่อกับเทพ ทั้งปวง ไม่นิ่งเฉย                       จะเปิดเผย กองทัพ รับเช่นกัน
        ๐ ด้วยอำนาจ กองทัพเทพ ทุกชั้นฟ้า     นำโดยองค์ อินทรา เทพสวรรค์
ทรงขี่ช้าง มหา เอราวัณ                              เข้าโรมรัน ตีมารแตก ให้แยกไป
        ๐ ตัวเราเอง นำทัพ พลธนู                   ซุ่มดูอยู่ พร้อมเล็ง พิษศรใส่
เมื่อหมู่มาร เข้าใกล้ สั่งยิงไป                         ลูกศรไฟ ต้องตก ถึงตัวมาร

          ๐ เวลานั้น แดนมนุษย์ สุดตระหนก        อีกวิหค เวหา เดรัจฉาน
คงแตกตื่น มองฟ้า สุดตระการ                        -ตาไปด้วย แสงเทพมาร มหัศจรรย์
          ๐ เดี๋ยวฟ้าผ่า ฟ้าแลบ และฟ้าร้อง          กังวานก้อง เกรงขาม จากสวรรค์
ฟ้าราวจะ แตกแยก ออกจากกัน                      มนุษย์นั้น ไม่รู้ ศึกข้างบน
          ๐ เลือดเทวา เลือดอสูร ที่ห้ำหั่น            ได้ตกลง จากวิมาน เป็นห่าฝน
เสียงฟ้าร้อง คือเสียงดาบ ถูกอกคน                  ตายกันจน เกลื่อนฟ้า วิลาศไป...
          ๐ ครั้นคราวศึก ช่วงนี้ ก็แสนหนัก          สะท้านภพ สะเทือนจักร ถึงแดนใหญ่
ทั้งสามโลก ก็หวั่น เรื่องเภทภัย                       มนุษย์ไซร้ ไม่รู้ ดูโง่งม...
         ๐ เกิดอาเพศ ไปทั่ว ทั้งโลกา                  พิบัติมา เยือนบ่อย น่าขื่นขม
คนไหว้เทพ ไหว้ฟ้า น่าอกตรม                        ไม่มาชม บนฟ้า ก็อาวรณ์
         ๐ คนขอเทพ เทพก็ขอ ให้คนช่วย           มนุษย์ป่วย เทพก็ป่วย ดั่งต้องศร
โลกจะแตก สวรรค์จะแยก สุดอาทร                  สัญญาณหลอน มาเตือน อยู่ร่ำไป
         ๐ พวกหมู่มาร เดี๋ยวนี้ ชักกำแหง           แทรกแซงลง ไปในจิต คิดการใหญ่
เหล่าคนชั่ว คิดโกง อยู่ร่ำไป                           นี่นั่นไง เห็นไหม ‘มาร’ในตัว
         ๐ มารมนุษย์ มารสวรรค์ ก็มีหมด           ทุกแห่งลด คนดี น่าปวดหัว
มีแต่เลว เลวกันได้ ทั่วทุกครัว                         เราชักกลัว หัวหดอยู่ ในแดนตน
        ๐ มนุษย์ร้าย ร้ายกว่ามาร ที่บุกสรวง       -สวรรค์ลวง เทพยดา ให้ปี้ป่น
มนุษย์ชั่ว ทุกตัว เทพไม่ดล                           ไม่ช่วยคน คิดชั่ว ไร้ศีลธรรม 
        ๐ จบเรื่องศึก นึกเรื่อง ตัวเราต่อ             เจ้าลูกพ่อ จงจรด ทุกคำย้ำ
พ่อจะเอ่ย เผยถ้อยถ้วน ล้วนลำนำ                 จงนำคำ มาแต่งต่อ เป็นบทกลอน
        ๐ เจ้าจงเขียน อ่านคำ ทำนองเสนาะ      แสนไพเราะ เพราะพริ้ง เรียงอักษร
จงจดจำ ใจความ ตามพ่อวอน                       อย่านิ่งนอน จงไปทำ ตามกระบวน
        ๐ อาจสงสัย เรื่องพักตร์ เราไม่หาย        เราจะคลาย ความสับสน ไม่สงวน
อ่านตามไป ทุกวรรค อย่างใคร่ครวญ              อย่ารีบด่วน ขี้เกียจอ่าน รำคาญใจ

         ๐ จะเศียรช้าง เศียรคน เราไม่สน           อยู่กับคน จะเห็นเรา เป็นแบบไหน
จิตระลึก ถึงช้าง เราแปลงไป                          อยากจะให้ เราเป็นคน เราทำตาม
         ๐ อยู่กับจิต ของพวกเธอ จะคิดถึง          ไม่เพียง‘หนึ่ง’ ไม่มี‘แค่’ อย่ามัวถาม
เราเป็นได้ ทุกสิ่งสรรพ ตามใจความ                 ทุกชั่วยาม เราจะอยู่ เคียงข้างเธอ
        ๐ เมื่อเธอนึก ถึงเรา เราไปหา                 ภาวนา ไปเถิด อย่ามัวเผลอ
จะอยู่กับเธอ ทั้งยามหลับ ยามละเมอ               แม้เลินเล่อ เราจะเตือน ไม่ห่างเลย
        ๐ เลิกสงสัย ได้แล้ว เรื่องรูปลักษณ์          จะกี่พักตร์ กี่กร ไม่เฉลย
อยู่ที่จิต ของเธอ จะนึกเลย                             เราจะเผย รูปลักษณ์ ตามจิตตน...
       ๐ ทั้งเรื่องวัย เรื่องปาง อีกเรื่องเล่า            จะผู้เฒ่า เยาว์เด็ก ไม่ต้องสน
ก็บอกแล้ว เรานิมิต ตามใจคน                         ไม่ต้องบ่น ถึงมันมาก น่ารำคาญ
       ๐ ใครเขียนรูป เราเยาว์เด็ก นั้นเราชอบ      จะตีกรอบ ให้เราหนุ่ม ดูกล้าหาญ
หรือจะปั้น รูปเราแก่ นั่งเข้าฌาน                      เป็นฤๅษี หรือนายพราน นั้นตามใจ
       ๐ ในโลกทิพย์ ทุกเทพ ทำได้หมด             จะโป้ปด มดเท็จ ไปทำไม
ทั้งบิดา มารดาเรา ก็ทำได้                              แต่ไม่ง่าย หากจะให้ พวกเธอทำ
      ๐ เอาเป็นว่า คงเข้าใจ ที่เราพูด                  จะไม่ขุด เรื่องเดิมๆ มาเล่าซ้ำ
เธอเข้าใจ ในทุกสิ่ง ทุกถ้อยคำ                         จงจดจำ เอาไว้ ตลอดกาล...
ขอบคุณภาพประกอบ : ราชัน
แสงทอง


ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อองค์พ่อพระพิฆเนศ💙
ตอบลบ